Robots Tag คืออะไร?

🔹 การใช้งาน Robots Tag สำหรับทำ SEO อย่างละเอียด

📌 Robots Tag คืออะไร?

Robots Tag หรือ Meta Robots Tag เป็น Meta Tag ที่ใช้ควบคุมการทำงานของ Web Crawlers (Bot ของ Search Engine เช่น Googlebot, Bingbot) ว่าจะให้ทำหรือไม่ให้ทำอะไรกับหน้าเว็บของเรา

📌 Robots Tag ช่วย SEO อย่างไร?
ช่วยป้องกันการทำ Index หน้าเว็บที่ไม่ต้องการ
ช่วยจัดลำดับความสำคัญของหน้าเว็บที่ต้องการให้ Google จัดอันดับ
ช่วยประหยัดงบประมาณการ Crawl (Crawl Budget) ของเว็บไซต์ขนาดใหญ่
ช่วยป้องกันปัญหา Duplicate Content (เนื้อหาซ้ำซ้อน)


🔹 ประเภทของ Robots Tag และค่าต่างๆ ที่สำคัญ

สามารถกำหนดค่า Robots Tag ได้หลายแบบโดยใช้ค่า content เช่น:

ค่า Robots ความหมาย ใช้เมื่อไหร่?
index อนุญาตให้หน้าเว็บถูกจัดเก็บในฐานข้อมูลของ Search Engine ค่าเริ่มต้น (ไม่ต้องกำหนดก็ได้)
noindex ห้าม Search Engine บันทึกหน้าเว็บนี้ลงดัชนี ใช้กับหน้าที่ไม่ต้องการให้แสดงในผลการค้นหา เช่น หน้าข้อความขอบคุณ, หน้า Login
follow อนุญาตให้ Bot ติดตามลิงก์ทั้งหมดในหน้านี้ ค่าเริ่มต้น
nofollow ห้าม Search Engine ติดตามลิงก์ในหน้านี้ ใช้เมื่อมีลิงก์ที่ไม่ต้องการให้ Bot ติดตาม (เช่น ลิงก์ Affiliate)
noarchive ห้าม Search Engine จัดเก็บสำเนาแคชของหน้านี้ ใช้เมื่อไม่ต้องการให้ Google แสดง “Cached Page”
nosnippet ห้ามแสดง Meta Description หรือ Featured Snippet ใช้เมื่อไม่ต้องการให้ข้อความสรุปของหน้าเว็บแสดงในผลการค้นหา
notranslate ห้าม Google แปลหน้านี้เป็นภาษาอื่น ใช้เมื่อต้องการควบคุมเนื้อหาในภาษาเดียว
noimageindex ห้าม Google ดึงรูปภาพจากหน้านี้ไปแสดงใน Google Images ใช้เมื่อไม่ต้องการให้รูปภาพติดอันดับในผลการค้นหา
none เทียบเท่ากับ noindex, nofollow ใช้เมื่อไม่ต้องการให้หน้าเว็บถูกจัดเก็บหรือให้ Bot ติดตามลิงก์ใดๆ

🔹 วิธีใช้งาน Robots Tag ใน HTML

📌 ใส่ไว้ใน <head> ของหน้าเว็บ

html
<meta name=”robots” content=”index, follow”>

 

ตัวอย่างการใช้งาน Robots Tag ตามสถานการณ์ต่างๆ

1. อนุญาตให้ Bot จัดเก็บและติดตามลิงก์ทั้งหมด (ค่าเริ่มต้น)

html
<meta name=”robots” content=”index, follow”>

 

2. ป้องกันไม่ให้ Google จัดเก็บหน้านี้ในดัชนี (ใช้ noindex)

html
<meta name=”robots” content=”noindex, follow”>

 

📌 ใช้เมื่อไม่ต้องการให้หน้าเว็บติดอันดับ เช่น หน้า Login, หน้า Checkout

3. ห้ามติดตามลิงก์ทั้งหมดในหน้านี้ (ใช้ nofollow)

html
<meta name=”robots” content=”index, nofollow”>

 

📌 ใช้เมื่อไม่ต้องการให้ Google ติดตามลิงก์ในหน้านี้ เช่น ลิงก์ไปยังเว็บไซต์พันธมิตร (Affiliate Links)

4. ห้ามทั้งจัดเก็บและติดตามลิงก์ (ใช้ noindex, nofollow)

html
<meta name=”robots” content=”noindex, nofollow”>

 

📌 ใช้กับหน้าที่ไม่ต้องการให้ Google จัดเก็บและไม่ต้องการให้ติดตามลิงก์

5. ห้าม Google จัดเก็บแคชของหน้าเว็บ (ใช้ noarchive)

html
<meta name=”robots” content=”noarchive”>

 

📌 ใช้กับเว็บที่มีข้อมูลที่เปลี่ยนแปลงบ่อย เช่น หน้าโปรโมชั่นหรือเนื้อหาที่ต้องการอัปเดตตลอดเวลา

6. ห้ามแสดง Featured Snippet หรือ Meta Description (ใช้ nosnippet)

html
<meta name=”robots” content=”nosnippet”>

 

📌 ใช้เมื่อไม่ต้องการให้ Google แสดงคำอธิบายสั้นๆ ในผลการค้นหา

7. ห้ามดึงรูปภาพจากหน้านี้ไปแสดงใน Google Images (noimageindex)

html
<meta name=”robots” content=”noimageindex”>

 

📌 ใช้เมื่อไม่ต้องการให้รูปภาพในหน้านี้ติดอันดับ Google Images


🔹 Robots Tag VS robots.txt ต่างกันอย่างไร?

คุณสมบัติ Meta Robots Tag robots.txt
ใช้กำหนดค่าให้แต่ละหน้า ❌ (ใช้กำหนดสำหรับโฟลเดอร์หรือไฟล์ทั้งหมด)
ป้องกันการ Index ✅ ใช้ noindex ✅ ใช้ Disallow
ควบคุมการติดตามลิงก์ ✅ ใช้ nofollow ❌ (ใช้ควบคุมการเข้าถึงหน้าเว็บเท่านั้น)
สามารถใช้กำหนดค่ารูปภาพได้ ✅ ใช้ noimageindex ✅ ใช้ Disallow สำหรับ /images/

📌 Meta Robots Tag มีความยืดหยุ่นกว่า เพราะสามารถใช้กำหนดค่าเฉพาะหน้าได้
📌 robots.txt เหมาะกับการบล็อกหน้าเว็บหรือไฟล์ทั้งหมดในเว็บไซต์


🔹 วิธีตรวจสอบว่า Robots Tag ทำงานถูกต้องหรือไม่?

✅ ใช้ Google Search Consolehttps://search.google.com/search-console
✅ ใช้เครื่องมือตรวจสอบ Meta Tagshttps://www.seoreviewtools.com/meta-tags-checker/
✅ ใช้ Google URL Inspection Tool เพื่อดูว่า Google สามารถ Index ได้หรือไม่


🔹 Robots Tag และ SEO

📌 Robots Tag เป็นเครื่องมือสำคัญในการควบคุมการจัดอันดับของเว็บไซต์
📌 ห้ามใช้ noindex กับหน้าที่ต้องการให้ติดอันดับ Google
📌 ใช้ nofollow อย่างระมัดระวัง เพราะอาจทำให้ลิงก์สำคัญไม่ได้รับค่า SEO
📌 ตรวจสอบ Robots Tag อย่างสม่ำเสมอเพื่อให้แน่ใจว่าหน้าเว็บสำคัญถูก Index


🔹 สรุป

🔹 Robots Tag ใช้ควบคุมการทำงานของ Search Engine ว่าจะ Index หน้าเว็บหรือไม่
🔹 สามารถใช้ควบคุมการติดตามลิงก์, การแสดงผล Meta Description, รูปภาพ และการแคชหน้าเว็บ
🔹 ช่วยเพิ่มประสิทธิภาพ SEO โดยป้องกันการ Index หน้าเว็บที่ไม่จำเป็น และลดปัญหาเนื้อหาซ้ำซ้อน
🔹 ใช้ร่วมกับ robots.txt เพื่อควบคุม Bot ได้อย่างมีประสิทธิภาพ

📌 แนะนำ: ตรวจสอบ Robots Tag ให้ถูกต้องเสมอ เพื่อป้องกันข้อผิดพลาดที่อาจทำให้หน้าเว็บที่สำคัญหายไปจากผลการค้นหา 🚀

ใส่ความเห็น

อีเมลของคุณจะไม่แสดงให้คนอื่นเห็น ช่องข้อมูลจำเป็นถูกทำเครื่องหมาย *