การติดตั้ง Plugin Recurring
การยกเลิกตัดบัตรเครดิตรายเดือน
plugin wordpress ระบบ Recurring ของ 2C2P เรียกเก็บเงินซ้ำจากบัตรเครดิตใบเดิม
ทดสอบใช้งานได้ที่ เพียว.com
ไลเซนส์ & ข้อมูลเบื้องต้น
-
License : 1 เว็บไซต์ wordpress
-
ซัพพอร์ต : ตามแพ็คเกจที่ซื้อ
-
สนับสนุน : เวิร์ดเพรสตั้งแต่ เวอร์ชั่น 4.4+ ขึ้นไป
-
สนับสนุน : Woocommerce เวอร์ชั่น 2.6.0+ ขึ้นไป
-
สนับสนุน : PHP version 5.2.0+ MySQL version 5.0+
คุณสมบัติปลั๊กอิน
1.เรียกเก็บเงินซ้ำจากบัตรเครดิตใบเดิม ตามระยะเวลาที่ร้านค้าได้กำหนดไว้ล่วงหน้า หรือการรับชำระค่าสมาชิกระยะยาวที่มีกำหนดรอบจ่ายไว้ล่วงหน้า จนกว่าลูกค้าจะยกเลิกการเป็นสมาชิก หรือยกเลิกการสั่งสินค้ารายเดือน เหมือนระบบ เน็ตฟลิกซ์ netflix ( ดูหนังรายเดือน )
2.แจ้งเตือน Order การสั่งซื้อเข้า Line กลุ่ม
หน้ากรอกบัตรเครดิต ระบบ Recurring Payment 2C2P
หน้าแจ้งเตือนเข้าไลน์กลุ่ม
ทำไมคุณควรใช้ระบบตัดเงินอัตโนมัติ
2C2P นำเสนอทางเลือกในการรับชำระเงินให้กับธุรกิจที่มีระบบการเรียกเก็บเงินจากลูกค้าประจำ โดยทางเลือกนี้ ช่วยให้ร้านค้าลดอัตราการเกิดปัญหาลูกค้าปฏิเสธการจ่าย อีกทั้งยังเพิ่มยอดขายได้มากยิ่งขึ้น
ทางเลือกนี้ยังช่วยให้ร้านค้าเรียกเก็บเงินจากลูกค้าได้อย่างแม่นยำ และทำให้ลูกค้าใช้สินค้า หรือบริการได้ยาวนานมากยิ่งขึ้น
ระบบทำงานอย่างไร ?
ลูกค้าตกลงยินยอมให้ร้านค้าเรียกเก็บเงินจากบัตรเครดิตในทุกๆ เดือน จนกว่าลูกค้าจะยกเลิกการเป็นสมาชิก หรือยกเลิกการสั่งสินค้ารายเดือน เหมือนระบบ เน็ตฟลิกซ์ netflix ( ดูหนังรายเดือน )
การชำระเงิน จะดำเนินการผ่าน Payment Gateway ของ 2C2P
โดยทาง 2C2P จะจดจำข้อมูลบัตรจากการชำระครั้งแรก แล้วเปลี่ยนเป็นรหัสการชำระเงินส่งกลับไปให้ร้านค้าในเดือนถัดไป
การชำระเงินออนไลน์ระบบตัดเงินอัตโนมัติ
หากธุรกิจของคุณให้บริการที่มีการเรียกเก็บค่าสมาชิก หรือลูกค้ามีความจำเป็นต้องชำระเงินอย่างต่อเนื่อง ตามระยะเวลาที่กำหนด
ระบบการตัดเงินอัตโนมัติอาจเป็นคำตอบสำหรับธุรกิจของคุณ โดยแทนที่ร้านค้าจะต้องส่งการแจ้งเตือนการชำระเงินไปยังลูกค้าทุกครั้ง หรือแจ้งให้ลูกค้าส่งเช็คเพื่อชำระเงิน ร้านค้าสามารถเรียกเก็บเงิน โดยการตัดชำระผ่านบัตรเครดิตของลูกค้าอัตโนมัติได้ทันที เมื่อครบกำหนดรอบชำระเงิน
Subscription Business Model
คุณคิดว่าโมเดลธุรกิจมีผลกับการสร้างธุรกิจให้เติบโตมากขนาดไหน?
(คุณจะตอบได้หลังอ่านจบบทความนี้)
เพราะมันให้ผลมากน้อยกับแต่ละธุรกิจไม่เท่ากัน บทความนี้ผมจะชี้ให้คุณเห็นว่าการเลือกโมเดลธุรกิจที่เหมาะสมและสร้างสรรค์นั้นทำให้ธุรกิจเติบโตได้เร็วกว่ามาก และยังทำให้ธุรกิจของคุณมีความน่าสนใจสุดๆ
เริ่มต้นด้วยโมเดลที่ผมชอบที่สุด
นั่นคือ Subscription Model นี่คืออนาคตใหม่ของการสร้างธุรกิจ โดยบริษัทสายเทคโนโลยีนั้นนิยมใช้โมเดลนี้กันเป็นอย่างมาก ตัวอย่างเช่น Netflix, Spotify, Apple, Salesforce, Amazon และอีกมากมาย
Subscription คือโมเดลธุรกิจที่ให้ลูกค้าของคุณจ่ายบริการรายวัน, รายเดือน หรือรายปี หรือคือการสร้างบริการ/สินค้าให้ลูกค้าคุณใช้อย่างต่อเนื่องและเก็บค่าบริการไปเรื่อยๆ ลองนึกถึงการจ่ายเงินกับบริการเครือข่ายโทรศัพท์อย่าง True, AIS หรือ Dtac ที่เก็บเงินคุณเป็นประจำทุกเดือน นี่ก็คือหนึ่งของวิธีทำธุรกิจด้วย Subscription Model
ทำไม Subsciption โมเดลถึงน่าสนใจ
– มันช่วยให้คุณคาดการณ์รายรับในอนาคตได้อย่างแม่นยำ เพราะคุณจะรู้ได้เลยว่า ในเดือนหน้าจะได้เงินอย่างน้อยเป็นจำนวนกี่บาท/เดือน หรือในกรณีที่รายรับนั้นยังไม่ดีก็สามารถบอกได้เช่นเดียวกันว่า ผลิตภัณฑ์ของคุณนั้นยังไม่ดีพอ ต้องปรับปรุง และพัฒนาให้ดีขึ้น
– วัดผลได้ชัดเจนสุดๆ เพราะด้วยระบบนี้จะทำให้เห็นว่า ลูกค้าของคุณนั้น รู้สึกอย่างไรกับผลิตภัณฑ์ ถ้าเค้าใช้อย่างต่อเนื่อง จ่ายตรงเวลา นั่นอาจหมายถึง เค้ารู้สึกดีกับสินค้าหรือบริการของคุณ ทำให้แบ่งกลุ่มลูกค้าเป็นหมวดหมู่ได้อย่างชัดเจนอย่างเช่น กลุ่มลูกค้าประจำ, ลูกค้าที่ชื่นชอบสินค้าแบบ A หรือ ลูกค้าที่ไม่ค่อยใช้ผลิตภัณฑ์ รวมถึงการสร้างความสัมพันธ์ที่ดีด้วยบริการเสริม หรือโปรโมชั่นพิเศษส่งตรงถึงลูกค้า รวมถึงการทำ Survey ได้รับ Feedback จากลูกค้าที่ถูกกกลุ่ม
– พัฒนาได้ตรงจุด ง่ายต่อการเติบโต เพราะโมเดลนี้นั้นจะใช้เทคโนโลยีเป็นพื้นฐาน เมื่อมารวมกับการวัดผลที่แม่นยำ คุณจะสามารถต่อยอดการพัฒนาผลิตภัณฑ์/บริการให้ดีขึ้นจากสิ่งที่ลูกค้าต้องการจริงๆ เพราะข้อมูลจะบอกหมดว่า ลูกค้าได้ใช้ฟีเจอร์ใหม่ๆ, ผลิตภัณฑ์หรือบริการใหม่ๆที่ปล่อยออกมาไหม โดยวัดจากอัตราการใช้งานจริง
– โมเดลที่เกิดขึ้นมาเพื่อสร้างลูกค้าประจำโดยเฉพาะ ธุรกิจจะเติบโตหรือไม่อยู่ที่จำนวนลูกค้าประจำ และนี่คือโมเดลที่ทันทีที่ลูกค้าซื้อ จะกลายเป็นลูกค้าประจำของธุรกิจคุณทันที ดีสุดๆจริงไหมครับ และลูกค้าประจำเหล่านี้ยังพร้อมให้ feedback ที่ดีกับธุรกิจอีกด้วยไม่ว่าจะเป็น ฟีเจอร์ที่ต้องการใช้ หรือคำแนะนำเพิ่มเติมต่างๆ มากกว่านั้นคือการช่วยบอกต่อให้ฟรีๆ เพราะเค้ารู้สึกผูกพันกับธุรกิจที่ต้องจ่ายทุกๆเดือน ย่อมอยากให้สิ่งที่ใช้นั้นดีสำหรับเค้ามากขึ้น
Netflix บริการสตรีมมิ่งหนังด้วยโมเดล Subscription ผู้เปลี่ยนวงการเช่าหนังตลอดกาล
บริการร้านเช่าหนังนั้นมีกันมาอย่างยาวนาน ในสมัยนั้น (ผมตอนเด็กยังทันอยู่ ฮา) จะมีร้านเช่าหนังอยู่มากมาย คุณจะเดินเข้าไปในดงที่เต็มไปด้วยหน้าปกวีดีโอกับรูปร่างที่เหลี่ยมๆหนาๆขนาดประมาณหนังสือ 400 หน้าเล่มหนึ่ง ทุกครั้งที่มีการเช่าจะคิดค่าบริการเป็นรายชิ้น และมีกำหนดต้องนำมาคืน บางร้านอาจมีแบบเหมาจ่ายรายเดือน (Subscription) ให้กับลูกค้าเมมเบอร์
ด้วยธุรกิจแบบนี้สิ่งที่เป็นปัญหากับผู้ใช้มากๆเลย คือ เราต้องเดินทางเพื่อไปเช่า/คืน บางครั้งเช่ามาวีดีโอเสีย หรือต้องมารอนั่งกรอวีดีโออยู่เป็นชั่วโมง หลักๆแล้วคือ เวลาจำนวนมากของผู้ใช้ที่เสียไปอย่างเปล่าประโยชน์
การเข้ามาของ Netflix นั้นช่วยแก้ปัญหาที่พูดถึงด้านบนให้หายหมด ชนิดที่เรียกว่าเหลือเพียงเสี้ยวนาที เพราะเพียงแค่เปิดแอพ คุณก็เลือกหนังที่ต้องการดูและกดคลิกทีเดียว หนังก็เริ่มเล่นทันที บริการที่เหนือกว่าด้วยการแก้ปัญหา และโมเดลธุรกิจที่ดึงดูดผู้ใช้
เพราะถ้าหาก Netflix คิดค่าบริการแบบจ่ายต่อหนังหนึ่งเรื่องที่ดู เลือกเรื่องไหนจ่ายเรื่องนั้น คงไม่มีผู้ใช้มากขนาดนี้ โมเดลที่มีอิสระมากพอให้ผู้ใช้ (เพราะมันรู้สึกคุ้มกว่า)จะดึงดูดมากกว่า
แต่ไม่ใช่ว่า Neflix นั้นจะเสียเปรียบจากการปล่อยให้ลูกค้าได้ประโยชน์อย่างเดียว จากการดูหนังเรื่องอะไรก็ได้ สิ่งที่เค้าได้คือ จำนวนข้อมูลมหาศาลจากผู้ใช้ที่จะบอกให้ Netflix รู้ว่าความชื่นชอบหนังของคนเป็นแบบไหน และควรสร้างหนังอย่างไรให้ถูกใจ
ถ้าคุณเป็นแฟนหนังของ Netflix จะเข้าใจดีเลยว่า ด้วยการชำระเงินรายเดือนที่จ่ายไปจะได้รับบริการหนังใหม่ๆที่สร้างมาอย่างดี (หนังที่สร้างโดย Netflix) ทยอยปล่อยออกมาให้ดูอย่างต่อเนื่อง และการพัฒนาระบบต่างๆทำให้รู้สึกว่าการชำระเงินรายเดือนเพียงเล็กน้อยเป็นการแลกเปลี่ยนที่คุ้มค่า
แต่โมเดลอย่างเดียวไม่พอ ถ้าทุกคนใช้โมเดลนี้เหมือนกัน จะปรับตัวอย่างไร?
Netflix นั้นรู้ดีถึงการมาของการแข่งขันในอนาคต เช่น Disney กำลังเริ่มต้นทำหนังสตรีมมิ่ง Subscription แบบเดียวกัน และการมาของ Disney นั้นน่ากลัวแต่ไม่เกินความคาดหมายของ Netflix เลย
เพราะเค้ารู้อยู่แล้วว่าสิ่งที่มันดีย่อมมีการแข่งขันที่ดุเดือดตามมา จึงเป็นที่มาของกลยุทธ์การทุ่มเงินจำนวนมหาศาลเพื่อสร้างหนังของตัวเอง ถึงแม้ถ้าดูตัวเลขการเงินของบริษัทจะติดลบอยู่เป็นจำนวนมาก แต่นี่คือส่วนหนึ่งของการลงทุนอย่างมีคุณค่า
เพราะมันจะช่วยให้ Netflix มีจุดยืนที่ชัดเจนในระยะยาวกับการแข่งขันในอนาคต และด้วยการกำหนด North Star Metric (ค่าการวัดผลที่บอกถึงคุณค่าของบริษัทนั้นๆ) เป็น Value Hours หรือจำนวนชั่วโมงการดูหนังของผู้ใช้ที่สมัครเข้ามาเพื่อดูรายการนั้นๆอย่างต่อเนื่อง (การเปิดดูเรื่อยเปื่อยจะไม่ถูกนับอยู่ในการวัดผลนี้)
ด้วยการวัดผลนี้บ่งบอกว่า Netflix นั้นเชื่อในเรื่องการสร้างหนังที่ออกมาให้โดนใจของคนดู มากกว่าเป็นเพียงแค่บริการสตรีมมิ่งที่รวมหนังจากผู้สร้างหลายๆที่มารวมกัน
ไม่ใช่กับแค่บริการเช่าหนังเท่านั้นที่คุณสามารถใช้ Subscription Model ได้
นี่คือลิสไอเดียที่คุณสามารถนำไปปรับใช้กับธุรกิจได้
– ธุรกิจตัดผม เพื่อให้(กึ่งๆบังคับ)ลูกค้าของคุณกลับมาตัดผมต่อเนื่องทุกเดือน
– ธุรกิจขายเมล็ดกาแฟ นี่เป็นรูปแบบที่ธุรกิจเมืองนอกชอบใช้ Subscription Model เพราะมันช่วยสร้างความสัมพันธ์กับลูกค้าได้ดีสุดๆ
– ธุรกิจโค้ชออนไลน์ ไม่ว่าจะเป็น ฟิตเนส, โยคะ หรือการเรียนรู้ต่างๆ ด้วยข้อมูลที่ออกแบบเฉพาะมาเพื่อคุณและส่งให้รายเดือน
– ระบบ Software ต่างๆ ไม่ว่าจะเป็น บัญชี, การตลาด หรือการจัดการทีม
– ธุรกิจขายเครื่องเขียน ที่รวมของน่ารักมากมาย ส่งให้คุณได้สะสมทุกๆเดือน จะเป็นคอลเลคชั่นต่างๆจากดีไซนเนอร์ที่หาซื้อที่ไหนไม่ได้
– ธุรกิจขายเสื้อผ้า เมื่อคุณจ่ายแบบเหมารายเดือน เค้าจะส่งเสื้อผ้าที่ดีไซน์เนอร์ได้ออกแบบมาแล้วว่าเหมาะกับคุณ ส่งตรงถึงบ้านทุกเดือน ถ้าคุณลองใส่แล้วไม่ชอบ สามารถส่งคืนได้โดยไม่เสียเงินใดๆ
– ขายอาหารเสริมแบบรายเดือน เพราะถ้าเรากินผลิตภัณฑ์ประเภทนี้นั้น จะต้องกินอย่างต่อเนื่องทุกเดือนอยู่แล้ว
จริงๆมีอีกมากมาย(มากๆ)นี่เป็นเพียงไอเดียส่วนหนึ่งเท่านั้น เพียงแค่ใส่ความครีเอทีฟเข้าไปพร้อมกับความกล้าที่จะทดลองว่ามันเวิร์คหรือไม่ เชื่อเลยว่า คุณก็สามารถนำไอเดียนี้มาประยุกต์กับธุรกิจให้ประสบความสำเร็จได้
นี่คือสิ่งที่คุณต้องมีถ้าจะใช้โมเดลนี้
- ระบบการจ่ายเงิน แบบเก็บเงินอัตโนมัติรายเดือน
เครื่องมือดีๆที่แนะนำ : https://puripas.com/product/recurring-payment-2c2p/
plugin wordpress ระบบ Recurring ของ 2C2P เรียกเก็บเงินซ้ำจากบัตรเครดิตใบเดิม
2C2P ผู้ให้บริการ Payment Gateway ในไทยและเอเชียตะวันออกเฉียงใต้
2C2P ก่อตั้งขึ้นเมื่อปี พ.ศ. 2546 ช่วยให้ บริษัท ต่างๆ ยอมรับการชำระเงินจากลูกค้ากว่า 620 ล้านราย ในเอเชียตะวันออกเฉียงใต้ รวมถึงประเทศไทยด้วยสำหรับ 2C2P มีบริการมากมาย สำหรับธุรกรรมทางการเงินอย่างจ่ายบิลค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ ค่าทางด่วน และอื่นๆ อีกมากมาย รวมช่องทางในการชำระเงิน เรียกว่า สามารถชำระได้ทุกช่องทางที่มีอยู่ในประเทศไทย อย่าง เคาน์เตอร์ เซอร์วิส ตู้ ATM Internet Banking (อินเทอร์เน็ตแบงกิ้ง) Webpay และช่องทางอื่นๆ
หลายๆคนคงไม่ค่อยได้ยินชื่อ 2C2P มากนักเพราะว่า มีการเริ่มจัดตั้งมานานแล้ว แต่ปัจจุบันเริ่มมีการใช้งาน และนิยมมากขึ้นทั้งรูปแบบของ Partner และ บริการของ 2C2P เองแน่นอนว่าเรื่องความปลอดภัย 2C2P ได้รับมาตรฐานความปลอดภัยในระดับสากล PCI DSS Level 1 (Payment Card Industry Data Security Standard) ซึ่งเป็นมาตรฐานที่บังคับใช้กับกลุ่มบริษัทที่ให้บริการที่เกี่ยวข้องกับธุรกิจบัตรเครดิต ซึ่งถูกกำหนดขึ้นเพื่อเพิ่มการปกป้องข้อมูลผู้ถือบัตร (Cardholder Data) จึงมีความปลอดภัยแน่นอนหายห่วง
สำหรับ 2C2P มีบริการหลักๆ 4 บริการ
- 2C2P เริ่มต้นจากการเป็น Payment Gateway ในการรับชำระเงินออนไลน์ด้วยบัตรเครดิต และ เดบิต บริษัทใหญ่ๆ เกือบทั้งหมดในไทย ใช้ Payment Gateway ของ 2C2P
- บริการ 123 คือ บริการที่อำนวยความสะดวกให้คนที่ยังไม่มีบัญชีธนาคาร หรือบัตรเครดิต สามารถทำธุรกรรมออนไลน์ เช่น โอนเงินหรือสั่งซื้อสินค้าตามเว็บไซต์ร้านค้าออนไลน์ต่างๆ ได้ โดยเก็บค่าธรรมเนียมในบริการ 10-30 บาทต่อ 1 ธุรกรรม
- บริการ easyBills เป็นบริการที่ใช้สำหรับจ่ายค่าน้ำ ค่าไฟ ค่าโทรศัพท์ เติมเกมออนไลน์ หรือแม้กระทั่ง จ่ายภาษีบนแอพพลิเคชั่น easyBills และเว็บไซต์ www.easyBills.in.th โดยเก็บค่าธรรมเนียมในบริการ 6-15 บาทต่อ 1 ธุรกรรม
- บริการ Qwik เป็นบริการชำระเงินแบบใหม่ล่าสุดที่ร่วมมือกับทาง Facebook โดยสามารถชำระเงินได้ทันทีโดยไม่ต้องออกจากหน้าต่างข้อความ โดยเก็บค่าธรรมเนียมในการบริการ 2.75% ของยอดใช้จ่ายทั้งหมดต่อ 1 ธุรกรรม
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่
คุณเอ ( เซลล์ 2C2P )
0917795592
ค่าธรรมเนียมสำหรับบริการรับชำระเงิน 2C2P
รีวิว
ยังไม่มีบทวิจารณ์